“ชีวิตงานสุวรรณีเหมือนหนังสือที่ยังไม่จบ...”
- Chamnongsri Hanchanlash
- 23 เม.ย. 2566
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 21 ก.ค. 2567
จำนงศรี รัตนิน

ภาพสุวรรณี สุคนธา ผลงานของจักรพันธุ์ โปษยกฤต
คุณหญิงจำนงศรี รัตนิน เกิดที่กรุงเทพฯ เป็นบุตรีของคุณจุลินทร์ และคุณสงวน ล่ำซำ จบชั้นประถมจากโรงเรียนราชินี แล้วไปต่อไฮสกูลที่ประเทศอังกฤษ ยังไม่ทันได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องกลับมาเมืองไทย เป็นคนชอบอ่านและเขียนหนังสือตั้งแต่เล็กๆ เมื่อเรียนอยู่ที่อังกฤษ เคยเขียนเรื่องสั้นไปลงในสามัคคีสาส์นของสามัคคีสมาคม ซึ่งเป็นสมาคมนักเรียนไทยในลอนดอน
คุณหญิงอ่านรามเกียรติ์ อิเหนา พระอภัยมณี และสังข์ทอง จบเล่มตั้งแต่ยังไม่ไปเรียนที่อังกฤษด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกันกับชอบอ่าน พล นิกร กิมหงวน และชอบอ่านวรรณคดีอังกฤษ
เมื่อกลับมาเมืองไทย บรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางกอกเวิร์ลด์ในขณะนั้นก็ชวนให้ไปเป็นบรรณาธิการข่าวสตรีและสังคม นับเป็นนักข่าวหญิงที่มีอายุน้อยที่สุดของหนังสือพิมพ์บางกอกเวิร์ลด์ คุณหญิงจำนงศรี ทำหนังสือพิมพ์อยู่ระยะหนึ่งก็แต่งงานกับจักษุแพทย์ชื่อ อุทัย รัตนิน หลังจากนั้นก็ทำหน้าที่แม่บ้านเรื่อยมา เคยเขียนงานวิจารณ์ภาพยนตร์และละคร ไปลงตามหนังสือพิมพ์รายวัน และรายสัปดาห์บ้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์และสยามรัฐรายวัน
จนถึงวันนี้แต่งงานมา 20 กว่าปีแล้ว จนลูกชายคนโตเข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยในอังกฤษ ลูกสาวคนที่สองเข้าเรียนฟิสิกส์ ในมหาวิทยาลัยมีชื่อในอเมริกา ส่วนลูกสาวคนเล็ก เพิ่งจะอายุ 16 ปี
คุณหญิงจำนงศรีมีความสนใจเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาภาษาอังกฤษ เอกวรรณคดี และจบได้ปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคนแรกและคนเดียวของคณะมนุษยศาสตร์ และความที่สนใจในงานเขียนบทละคร, ภาพยนตร์ อยู่เสมอจึงมีงานเขียนร้อยกรองลงในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เนืองๆ ส่วนบทละครที่ชื่อ ก่อนจะสิ้นแสงตะวัน ได้รับรางวัลบทละครดีเด่นของมูลนิธิ จอห์น เอ. อีเคน
คุณหญิงบอกว่า ชอบงานเขียนของอัศศิริ ธรรมโชติ “ชอบดนตรีในร้อยแก้วของอัศศิริ” จึงแปล ขุนทองเจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง ลงในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และแปลเรื่องสั้นของนักเขียนไทยให้กับสมาคมภาษาและหนังสือฯ คุณหญิงเป็นหนึ่งในคณะผู้ทำงานแปลไตรภูมิพระร่วง ให้กับโครงการวรรณกรรมอาเซียน จัดทำรายการวิทยุให้กับโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาเซียน
คุณหญิงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าเมื่อไม่นานมานี้
ขณะนี้เป็นอาจารย์พิเศษคณะศิลปศาสตร์ สอนวิชาวรรณกรรมกับมนุษย์ และการวิจารณ์ภาพยนตร์และโทรทัศน์ ล่าสุดคุณหญิงจำนงศรี ร่วมกับสุรธัช บุนนาค จัดทำหนังสือสารคดีภาษาอังกฤษเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทย ให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

คุณหญิงจำนงศรี กล่าวถึงสุวรรณี สุคนธา ว่า “ชีวิตของนักเขียนเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง เมื่อนักเขียนจบชีวิต หนังสือเล่มนั้นมันก็จบ การเสียชีวิตของสุวรรณีมันเหมือนกับเราอ่านหนังสือที่เรากำลังติดตาม เห็นพัฒนาการ เห็นความเปลี่ยนแปลง เรื่องในหนังสือเล่มนั้นกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ ยังไม่สรุป เรายังหาบทสรุปไม่ได้ หนังสือเล่มนั้นก็มาพลันจบโดยที่เราไม่คาดคิด ชีวิตของสุวรรณีมันเหมือนหนังสือที่ยังไม่จบ มันสะดุดน่าเสียดาย และมันสั้นไปหน่อย สั้นเกินกว่าที่เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของคุณสุวรรณี ซึ่งควรจะมีต่อไปอีกยาวนาน
งานเขียนของคุณสุวรรณี เป็นงานเฉพาะตัวที่ใครไม่อาจจะเลียนแบบได้ เธอเป็นคนไม่กลัวอารมณ์ และไม่กลัวการแสดงออกของอารมณ์ ไม่ได้พยายามหรือจงใจใช้วรรณศิลป์มาเคลือบงานเพื่อให้เกิดความงดงาม ความละเอียดอ่อนสะเทือนอารมณ์ แต่ความกล้าและความจริงใจทางอารมณ์ของสุวรรณี มันมีความงดงามในตัวของมันเอง ซึ่งจะหาใครมาเลียนแบบไม่ได้”
คุณหญิงจำนงศรี กล่าวว่าการเขียนของสุวรรณีนั้นชัดแจ้งและรุนแรงกับประสาทสัมผัส เคยอ่าน ทองประการแสด หลายปีมาแล้ว และไม่ได้เคยหยิบมาอ่านอีก แต่กลิ่นมุ้งของ ทองดี ในหนังสือเล่มนี้ก็ยังติดจมูกอยู่ไม่หายจนกระทั่งบัดนี้
( สุวรรณี สุคนธ์เที่ยง เจ้าของนามปากกา สุวรรณี สุคนธา นักประพันธ์เจ้าของรางวัล ส.ป.อ. เรื่อง เขาชื่อกานต์ และผลงานเขียนทั้งนวนิยายและเรื่องสั้นที่มีชื่อเสียงอีกมาก อาทิ ความรักครั้งสุดท้าย เก้าอี้ขาวในห้องแดง ทองประกายแสด วันวาร รวมเรื่องสั้นชุดสวนสัตว์ ฯลฯ สุวรรณี สุคนธา เสียชีวิตจากการถูกวัยรุ่นดักชิงรถยนต์ขณะเธอไปจ่ายตลาด เข้าทำร้ายด้วยอาวุธ เพื่อที่จะนำไปขายแล้วหาซื้อยาเสพติด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527 รวมอายุได้ 52 ปี )
จาก: คอลัมน์โพกัสบุคคล นิตยสารสู่อนาคต ปีที่ 4 ฉบับที่ 280 วันที่ 28 ก.พ. – 6 มี.ค. 2528
Comentários